มาแบบนักท่องเที่ยวแท้ๆ เดินวนๆ ไม่ได้เข้าใจอะไรลึกซึ้ง ครั้งที่สองนั้นมากับซูนิมซึ่งได้มีโอกาสหมุนกงล้อมนตราครบรอบ ครั้งที่สามนั้นมีความตั้งอกตั้งใจกับการสวดมนต์ขอพร
ให้กับตัวเองและการงาน ส่วนครั้งนี้ฉันตั้งใจมาเพื่อคนอื่น
เดี๋ยวนี้ตรงบริเวณหน้าวัดนั้นค่อนข้างพลุกพล่านเต็มไปด้วยรถราและผู้คนสัญจรขวักไขว่ ร้านรวงเปิดขายของกันอย่างคึกคัก ฉันแทบจะจำภาพเดิมๆ ที่เคยคุ้นตาไม่ได้เลย
แต่เมื่อผ่านประตูด้านหน้าเข้าไปแล้วเหมือนได้นำตัวเองไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งของกาลเวลา ความสงบเข้ามาครอบงำในจิตใจ เจดีย์ขนาดใหญ่นั้นค่อยๆ เด่นตระหง่านให้ฉันได้ยลโฉม
ชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเท้าก้าวเดินเข้าไปหาฉันกลับรู้สึกว่าความยิ่งใหญ่นั้นเป็นส่ิงที่สงบน่ิง
ไม่ท้าทายหรืออวดอำนาจ ทำให้ความหย่ิงทะนงในตัวตนของฉันนั้นลดลงเหลือเพียงเท่าธุลีดิน
แต่เมื่อผ่านประตูด้านหน้าเข้าไปแล้วเหมือนได้นำตัวเองไปอยู่ในอีกมิติหนึ่งของกาลเวลา ความสงบเข้ามาครอบงำในจิตใจ เจดีย์ขนาดใหญ่นั้นค่อยๆ เด่นตระหง่านให้ฉันได้ยลโฉม
ชัดขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเท้าก้าวเดินเข้าไปหาฉันกลับรู้สึกว่าความยิ่งใหญ่นั้นเป็นส่ิงที่สงบน่ิง
ไม่ท้าทายหรืออวดอำนาจ ทำให้ความหย่ิงทะนงในตัวตนของฉันนั้นลดลงเหลือเพียงเท่าธุลีดิน
ก่อนอื่นฉันต้องทำให้ท้องตัวเองสงบน่ิงลงก่อนเพื่อที่จะใช้สมาธิในการเดินสวดมนต์ให้ใจสงบได้ ฉันเดินไปรอบๆ เพื่อหาร้านอาหารทานรองท้อง และตัดสินใจเลือก Café du Temple เพราะเขามีระเบียงตรงชั้นบน อยากจะนั่งทานอาหารไปชมเจดีย์และดูผู้คนที่มาแสดงความศรัทธาในการเดินอย่างช้าๆ ไปรอบๆ สวดมนต์หรือกราบไหว้เจดีย์ อาหารที่นี่พอทานได้ไม่ถึงกับอร่อยมากราคาก็พอประมาณอาจเป็นเพราะอยู่ในบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยวและมีที่ตั้งที่ถือว่าเป็นสุดยอดของการชมทิวทัศน์ ทำให้ฉันได้ภาพเจดีย์โบธนาถในมุมสูงที่ดูแล้วย่ิงใหญ่
ทีเดียว
ทีเดียว
วันนี้คนมาเยี่ยมชมเจดีย์ไม่มากนักแต่เดาว่าวันรุ่งขึ้นคนคงแน่นขนัดเพราะเป็นวันวิสาขบูชา พนักงานพากันทาสีตัวเจดีย์ให้ขาวสะอาดตา รวมทั้งประดับประดาด้วยธงมนต์ 5 สี เตรียมต้อนรับพุทธศาสนิกชนที่เปี่ยมศรัทธา
เมื่ออ่ิมท้องคราวนี้ก็ถึงเวลารวบรวมสมาธิ ฉันเดินย้อนกลับไปด้านหน้าเจดีย์ทำใจให้สงบน่ิงและเร่ิมต้นสวดมนต์แล้วจึงเดินหมุนกงล้อมนตราไปทีละอันด้วยใจมุ่งมั่น ฉันนึกถึงคนที่ฝากฉันให้มาที่นี่ เขามีความศรัทธาแรงกล้าและชอบที่นี่มาก หากไม่เป็นเพราะเขาแล้วฉันเองก็อาจจะไม่ได้มาที่นี่ในครั้งนี้ ต้องขอบคุณที่เตือนให้ฉันได้มาพบเจอกับความสงบ ตั้งใจว่าจะสวดมนต์ขอพรให้เขามีสุขภาพดี มีความสุข มีสติ ปัญญาและมีชีวิตที่ดี ส่วนเรื่องที่ีขอส่วนตัวนั้น
ขออุบไว้คนเดียว
ขออุบไว้คนเดียว
ฉันเดินหมุนกงล้อมนตราจบครบทุกอันไม่ขาด ไม่ตก ไม่หล่น คิดว่าความตั้งใจนั้นจะส่งผลให้พรที่ขอได้ยินไปถึงใครซักคนและดลใจให้สมดังความปรารถนาทุกประการ คีริตชวนขึ้นไปเดินรอบๆ ด้านบน ซึ่งทำให้ฉันได้เดินรอบเจดีย์เป็นรอบที่สอง เขาชวนคุยเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับประเทศของเขา ดูเขาจะโตเกินวัยมาก เขาบอกว่าเพื่อนๆ มักเรียกเขาว่าคุณลุงเพราะเขามักรู้เรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประเพณีโบราณมากเกินกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน และดูเหมือนว่าเขาก็ชอบที่จะเป็นแบบนั้น เขาตกใจมากเมื่อรู้ว่าฉันอายุเท่าไหร่ คงไม่ใช่ว่าฉันหน้าเด็กอะไรแต่เขาคงงงกับการใช้ชีวิต นิสัยและความสนใจของฉันมากกว่า ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นเด็กดีใช้ได้
ไม่เคยรู้สึกรำคาญความเป็นวัยรุ่นเลอะเทอะไร้สาระ ไม่สนใจส่ิงรอบตัวเหมือนกับที่เคยรู้สึกกับเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ เขาดูสนิทกับญาติพี่น้องมาก มีความอ่อนโยนและรับผิดชอบ สังเกตุได้จากการที่เขาสามารถดูแลหลานๆ ลูกของพี่ๆ ได้ เขาค่อนข้างสนิทกับแม่และคุยกับซาฟาร่าได้ทุกเรื่อง คงเป็นเพราะเธอเป็นคนทันสมัยและหัวเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้มาก ไม่เหมือนแม่ๆ คนอื่น
ไม่เคยรู้สึกรำคาญความเป็นวัยรุ่นเลอะเทอะไร้สาระ ไม่สนใจส่ิงรอบตัวเหมือนกับที่เคยรู้สึกกับเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ เขาดูสนิทกับญาติพี่น้องมาก มีความอ่อนโยนและรับผิดชอบ สังเกตุได้จากการที่เขาสามารถดูแลหลานๆ ลูกของพี่ๆ ได้ เขาค่อนข้างสนิทกับแม่และคุยกับซาฟาร่าได้ทุกเรื่อง คงเป็นเพราะเธอเป็นคนทันสมัยและหัวเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้มาก ไม่เหมือนแม่ๆ คนอื่น
คราวนี้ถึงภารกิจสำคัญที่ตั้งอกตั้งใจไว้เมื่อมาที่นี่ คือการตามหาพระพิฆเนศปางทารก ฉันเริ่มเดินใหม่จากด้านหน้าและตั้งใจจะแวะดูตามร้านค้าที่ขายของประเภทพระพุทธรูปทุกร้าน
“ขอโทษค่ะ คุณมี Baby Ganesh มั้ยคะ” ฉันถามชายคนขายที่นั่งหน้าร้านแรกที่แวะ ร้านค้านี้เป็นร้านขนาดเล็ก มีรูปปั้นพระพุทธรูปไม่มากนัก
“อืมม์ … Baby Ganesh เหรอ ไม่มีหรอก” เขาตอบทันใด
ฉันรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แต่ไม่มากนักเพราะจริงๆ แล้วที่นี่เป็นวัดพุทธนิกายมหายาน ไม่ใช่วัดฮินดู การที่จะหาเทพเจ้าฮินดูนั้นก็คงต้องยากซักหน่อย ได้แต่คิดว่ายังมีร้านค้าอีกมากคงต้องมีซักร้านที่มีพระพิฆเนศน่ะ ตอนที่เดินสวดมนต์ก็ได้สวดขอแล้วให้มีบุญพอที่จะเจอท่าน
ที่นี่
ที่นี่
ฉันเหลือบมองดูในร้านพลันสายตาก็ไปหยุดที่ตู้โชว์ด้านใน ตอนแรกคิดว่าตาคงฝาดไปจึงเพ่งมองและเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าฉันเจออะไร
“นี่ไงคุณ … พระพิฆเนศ ขอดูองค์นี้หน่อยได้มั้ย” ฉันหันไปบอกคนขาย
เขาทำหน้างงๆ เดินมาที่ตู้และปลดล็อคหยิบท่านขึ้นมาให้ฉัน
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ “Baby Ganesh” ปางที่ฉันตามหา เป็นองค์สีทองอร่าม สวยงามและโดดเด่นมาก เป็นเทวรูปองค์เดียวที่เป็นสีทองทำให้สะดุดตา ฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมาในทันใด เมื่อได้สัมผัสท่านแล้วฉันรู้สึกได้เลยว่า “ใช่” องค์นี้แหล่ะ ที่เหมาะที่สุดที่จะเป็น
ของฝาก
ของฝาก
ฉันถามราคาเจ้าของร้าน เมื่อเขาบอกมาฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่าราคาสูงมากนัก แต่คีริต
กลับบอกว่าแพงมากเกินไป และตามภาษาผู้หญิงฉันก็อยากเดินดูรอบๆ ให้มั่นใจก่อนว่าองค์นี้เป็นองค์ที่สวยที่สุดแล้ว
กลับบอกว่าแพงมากเกินไป และตามภาษาผู้หญิงฉันก็อยากเดินดูรอบๆ ให้มั่นใจก่อนว่าองค์นี้เป็นองค์ที่สวยที่สุดแล้ว
ฉันเดินไปรอบๆ บริเวณ แวะทุกร้าน แต่ไม่พบพระพิฆเนศปางที่ต้องการอีกเลยในร้านใดก็ตาม ฉันจึงวนกลับมาที่ร้านแรก คราวนี้เจอภรรยาเจ้าของร้าน เธอบอกราคาที่สูงกว่าเดิมเสียอีก เธออ้างว่าเป็นเพราะราคาทองที่พุ่งพรวดอยู่ทุกวัน ทำให้คีริตเสียความรู้สึก จึงหันไปถามร้านข้างๆ ที่มีปางเดียวกันแต่เป็นสีบรอนซ์ซึ่งอาจจะดูทึมๆ ไม่สวยนัก และแกะสลักไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ สนนราคานั้นเพียงแค่ครึ่งหนึ่งขององค์แรก เขาบอกว่าให้ลองปรึกษาจูเกชดูว่าราคาที่เจ้าของร้านบอกมานั้นมันโอเว่อร์เกินไปหรือเปล่า ฉันจึงโทรหาเขาในทันที ซึ่งเขาก็บอกว่าราคาค่อนข้างโอเคสำหรับเทวรูปที่เคลือบด้วยทอง คราวนี้ฉันก็ต้องใช้วิชาอ้อนกับคนขายล่ะ ฉันพูดกับเธออย่างอ่อนหวาน ขอร้องให้ลดราคาลงอีกหน่อย ซึ่งในที่สุดเธอก็เห็นใจ ฉันจึงได้พระพิฆเนศตามที่ใจต้องการ ฉันคิดว่าฉันคงพอมีบุญอยู่บ้าง และส่ิงที่ทำให้ฉันได้พบกับท่านนั้นก็คงเป็นเพราะความตั้งใจ แต่ที่สำคัญคงต้องเป็นแรงใจที่ส่งมาจากคนที่อยากจะบูชาท่าน เขาเคยที่จะเช่าครั้งหนึ่งเมื่อเดินทางมาที่เนปาลเมื่อหลายปีก่อนแต่ก็ต้องคลาดไป ของแบบนี้คงอยู่ที่จังหวะเวลาและบุญวาสนาของแต่ละคน
ฉันกลับบ้านไปด้วยความตื้นตันใจ รู้สึกเหมือนชีวิตได้ทำอะไรที่ประสบความสำเร็จ
ซักอย่าง
ซักอย่าง
ค่ำวันนั้นจูเกช ริซ่า และเด็กๆ ต้องไปทานเลี้ยงบ้านของคุณยายริซ่าซึ่งมีอายุมากถึง 93 ปีแล้ว งานเลี้ยงนี้จัดเพื่อฉลองให้กับหลานสาว 2 คนที่ได้ผ่านพิธีแต่งงานเมื่อเช้านี้ ซึ่งแน่นอนที่สุดฉันก็ถูกหอบหิ้วตามไปด้วยทุกที่ที่ครอบครัวนี้ไป ที่บ้านนี้มีญาติของริซ่าสองครอบครัวอยู่ร่วมกัน แต่ก่อนตอนเด็กๆ เธอก็เคยมาอยู่ที่นี่เหมือนกันเวลาที่แม่กลับมาเยี่ยมบ้าน งานเลี้ยงวันนี้คนที่รับบทหนักเห็นจะเป็นสะใภ้สองคนที่ต้องทำหน้าที่จัดเตรียมอาหารให้กับแขก เห็นเธอเดินวุ่่นวายขึ้นลงด้านบนและด้านล่างคอยเติมอาหารที่พร่องไปไม่ได้หยุดหย่อน เราไปถึงค่อนข้างช้า แขกเหรื่อบางคนก็ทยอยกลับกันบ้างแล้ว แต่ฉันได้รับการต้อนรับอย่างดีและถูกแนะนำในฐานะเพื่อนสนิทจากต่างแดน ญาติๆ ของริซ่าพากันเอาอกเอาใจ
หาของกินให้กับฉันเป็นการใหญ่ คุณพ่อของริซ่าจำฉันได้ดี เพราะฉันเจอท่านสามครั้งแล้ว
ครั้งที่แล้วก็ได้ไปทานข้าวที่บ้านท่านด้วย ท่านชวนฉันคุยสนุกสนาน เล่าเรื่องนู้นนี้ให้ฟัง
แถมยังชวนกลับมาเที่ยวอีกบ่อยๆ
หาของกินให้กับฉันเป็นการใหญ่ คุณพ่อของริซ่าจำฉันได้ดี เพราะฉันเจอท่านสามครั้งแล้ว
ครั้งที่แล้วก็ได้ไปทานข้าวที่บ้านท่านด้วย ท่านชวนฉันคุยสนุกสนาน เล่าเรื่องนู้นนี้ให้ฟัง
แถมยังชวนกลับมาเที่ยวอีกบ่อยๆ
ตามธรรมเนียมของชาวเนวาร์ เขาจะทานของทานเล่นและดื่มกันก่อนจะกินมื้อหนัก สำหรับคืนนี้กว่าเราจะได้ทานอาหารมื้อค่ำนี้ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม เมื่ออ่ิมหมีพีมันแล้วก็ขอตัวลา
กลับบ้านกันตอนห้าทุ่ม
กลับบ้านกันตอนห้าทุ่ม
ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโชคดี มีกัลยาณมิตรที่ดีมากมาย บางทีเราอาจไม่จำเป็นต้องมีข้าวของอะไรมากมายในชีวิต หรือร่ำรวยล้นฟ้าถึงจะมีความสุข แต่แค่การที่รู้ว่ามีใครที่จริงใจ หวังดีต่อเรา ยอมรับในส่ิงที่เราเป็น และต้อนรับด้วยน้ำใจที่ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน ฉันว่าเป็นสมบัติที่สำคัญสำหรับการดำรงอยู่ในสังคม เพราะสิ่งนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ แม้จะร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น