หกโมงครึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง เมื่อคำณวนดูแล้วคิดว่าน่าจะฉุกละหุกเกินไปเพราะเที่ยวบิน
ของเราออกตอนเก้าโมงเช้า เราเลยตัดสินใจนั่งรถไฟใต้ดินต่อไปที่สถานีโตเกียวเพื่อจะไปซื้อตั๋วของรถไฟสายนาริตะเอกซ์เพรซ ปรากฏว่าเที่ยวแรกออกเวลาเดียวกัน เราเลยจำใจต้องซื้อตั๋ว
ในราคาคนละ 3,140 เยน แพงกว่าสายไคไซ แต่เพราะความขี้เกียจก็เลยต้องเลยตามเลย
ย่านอูเอโนะนั้นความจริงมีที่เที่ยวที่น่าสนใจเหมือนกัน ช่วงเช้าลองแวะไปสวนสาธารณะ
อูเอโนะที่ซึ่งรวมส่ิงสำคัญไว้มากมาย เป็นสวนที่มีต้นซากุระกว่าพันต้นเพราะงั้นช่วงฤดูที่ซากุระบานอาจจะเดินเบียดกับผู้คนหน่อย ความงามทางธรรมชาติยังมีให้เห็นอีกนั่นก็คือทะเลสาป
ชิโนบาซุ (Shinobazu pond) ที่อยู่ในบริเวณสวน มีเรือให้พายเล่นด้วย มักมีนกบินหลบหนาวมาอาศัยพักพิง ส่ิงศักดิ์สิทธิ์ก็มีให้สักการะ ศาลเจ้าโทโชกุ (Tosho-gu Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่บูชาท่านโชกุนอิเอยาซุ (Iayasu) และเจดีย์ห้าชั้นซึ่งสร้างไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และรอดพ้นภัยพิบัติทั้งปวงมาได้ ทั้งสองอยู่ภายในบริเวณสวนสัตว์ เลยมักมีเด็กๆ มาเที่ยวเล่นกันมากมาย น่าเสียดายที่เจ้าแพนด้าที่ถูกส่งมาเป็นของขวัญจากประเทศจีนได้ตายไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ที่สวนสัตว์ก็เลยไม่มีสิ่งจูงใจให้มาเท่าไหร่ มีรูปปั้นที่น่าสนใจคือรูปของท่านไซโก ทากาโมริ (Saigo Takamori) ซึ่งเป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงมาก เรียกว่าเป็นซามูไรที่แท้จริงคนสุดท้ายของญี่ปุ่น ในหนังเรื่อง “The Last Samurai” ก็ได้เอาเรื่องราวส่วนหนึ่งของท่านไปเป็นตัวละคร
ในนั้น ที่เล่นโดย เคน วาตานาเบ้ (Ken Watanabe) แต่ใช้ชื่ออื่นในเรื่อง และถึงแม้ว่าท่านจะเคยรบเพื่อต่อต้านการปกครองของรัฐบาลในยุคเมจิเนื่องจากความคิดเห็นเรื่องการบริหารบ้านเมืองไม่ตรงกันแต่ในที่สุดก็ได้รับการอภัยโทษ จึงมีรูปปั้นของท่านอยู่ที่สวนแห่งนี้
อูเอโนะที่ซึ่งรวมส่ิงสำคัญไว้มากมาย เป็นสวนที่มีต้นซากุระกว่าพันต้นเพราะงั้นช่วงฤดูที่ซากุระบานอาจจะเดินเบียดกับผู้คนหน่อย ความงามทางธรรมชาติยังมีให้เห็นอีกนั่นก็คือทะเลสาป
ชิโนบาซุ (Shinobazu pond) ที่อยู่ในบริเวณสวน มีเรือให้พายเล่นด้วย มักมีนกบินหลบหนาวมาอาศัยพักพิง ส่ิงศักดิ์สิทธิ์ก็มีให้สักการะ ศาลเจ้าโทโชกุ (Tosho-gu Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่บูชาท่านโชกุนอิเอยาซุ (Iayasu) และเจดีย์ห้าชั้นซึ่งสร้างไว้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 และรอดพ้นภัยพิบัติทั้งปวงมาได้ ทั้งสองอยู่ภายในบริเวณสวนสัตว์ เลยมักมีเด็กๆ มาเที่ยวเล่นกันมากมาย น่าเสียดายที่เจ้าแพนด้าที่ถูกส่งมาเป็นของขวัญจากประเทศจีนได้ตายไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ที่สวนสัตว์ก็เลยไม่มีสิ่งจูงใจให้มาเท่าไหร่ มีรูปปั้นที่น่าสนใจคือรูปของท่านไซโก ทากาโมริ (Saigo Takamori) ซึ่งเป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงมาก เรียกว่าเป็นซามูไรที่แท้จริงคนสุดท้ายของญี่ปุ่น ในหนังเรื่อง “The Last Samurai” ก็ได้เอาเรื่องราวส่วนหนึ่งของท่านไปเป็นตัวละคร
ในนั้น ที่เล่นโดย เคน วาตานาเบ้ (Ken Watanabe) แต่ใช้ชื่ออื่นในเรื่อง และถึงแม้ว่าท่านจะเคยรบเพื่อต่อต้านการปกครองของรัฐบาลในยุคเมจิเนื่องจากความคิดเห็นเรื่องการบริหารบ้านเมืองไม่ตรงกันแต่ในที่สุดก็ได้รับการอภัยโทษ จึงมีรูปปั้นของท่านอยู่ที่สวนแห่งนี้
ภายในสวนอุเอโนะแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญอีกสามแห่ง ที่แรกคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) ซึ่งแบ่งเป็นห้าตึก ตึกแรกนั้นชื่อฮอนกัน (Honkan) จัดแสดงศิลปะโบราณของญี่ปุ่นทั้งภาพวาด รูปปั้น เสื้อผ้าโบราณต่างๆ ถัดมาคือ
ตึกโทโยกัน (Toyakan) รวบรวมศิลปะชาติตะวันออกอื่นๆ ที่ไม่ใช่ญ่ีปุ่น โดยเฉพาะอย่างย่ิง
จีนและเกาหลีเพราะได้มีความสัมพันธ์กันมานานตึกเฮเซกัน (Heiseikan) ที่นี่รวบรวมศิลปะทางโบราณคดี ส่วนใหญ่จึงเป็นรูปปั้นและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ขุดเจอ แต่ว่าเขาจะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ใช่งานแสดงที่อยู่ถาวรแกลเลอรี่ฮอยุจิ (Horyu-ji Treasures) นั้นรวบรวมสมบัติอันล้ำค่าที่เคยอยู่ที่วัดฮอยุจิที่นารา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพระพุทธรูป หน้ากาก และภาพวาดสุดท้ายคือตึกเฮียวไคคัน (Hyokaikan) ตัวตึกนั้นโดดเด่นเพราะเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะตะวันตกในช่วงปลายของยุคเมจิ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกงานแต่งงานของเจ้าชายไทโช (Taisho) สมเด็จพระอัยยกาของพระจักรพรรดิ์ปัจจุบัน และมีไว้เพื่อแสดงงานศิลปะเฉพาะกิจ
ตึกโทโยกัน (Toyakan) รวบรวมศิลปะชาติตะวันออกอื่นๆ ที่ไม่ใช่ญ่ีปุ่น โดยเฉพาะอย่างย่ิง
จีนและเกาหลีเพราะได้มีความสัมพันธ์กันมานานตึกเฮเซกัน (Heiseikan) ที่นี่รวบรวมศิลปะทางโบราณคดี ส่วนใหญ่จึงเป็นรูปปั้นและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ขุดเจอ แต่ว่าเขาจะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ใช่งานแสดงที่อยู่ถาวรแกลเลอรี่ฮอยุจิ (Horyu-ji Treasures) นั้นรวบรวมสมบัติอันล้ำค่าที่เคยอยู่ที่วัดฮอยุจิที่นารา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพระพุทธรูป หน้ากาก และภาพวาดสุดท้ายคือตึกเฮียวไคคัน (Hyokaikan) ตัวตึกนั้นโดดเด่นเพราะเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะตะวันตกในช่วงปลายของยุคเมจิ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกงานแต่งงานของเจ้าชายไทโช (Taisho) สมเด็จพระอัยยกาของพระจักรพรรดิ์ปัจจุบัน และมีไว้เพื่อแสดงงานศิลปะเฉพาะกิจ
นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญอีกสองแห่งซึ่งอยู่ในบริเวณสวนนี้เช่นกันนั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ (National Museum of Western Art) ตัวตึกออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เลอ คอบุซิเอ (Le Corbusier) เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของการสานสัมพันธ์ทางการฑูตของญี่ปุ่นและฝรั่งเศสอีกครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง รวบรวมงานศิลปะตะวันตกไว้มากมายกว่า 4,500 ช้ิน มีตั้งแต่ยุค เรเนซองซ์ (Renaissance) บาโรค (Baroc)
รอคโคโค (Rococo) จนมาถึงงานในยุคศตวรรษที่ 20
รอคโคโค (Rococo) จนมาถึงงานในยุคศตวรรษที่ 20
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Museum of Nature and Science) สำหรับงานแสดงแบบถาวรนั้นอยู่ที่สองห้องคือห้องโลก (Global Gallery) ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของสรรพสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ และห้องญี่ปุ่น (Japan Gallery)
ก็เน้นไปเรื่องของธรรมชาติของญี่ปุ่น และมีโรงหนังสามมิติที่ฉายแบบ 360 องศา คุณจะรู้สึกเหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ที่เขาฉายให้ดู สารคดีที่ฉายก็มีหลายเรื่องล้วนแต่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก เรื่องราวของไดโนเสาร์ ฯลฯ นอกจากว่าเขาจะอยากให้คนมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและที่มาที่ไปของโลกใบกลมนี้เขายังหวังปลุกจิตสำนึกให้คนรู้สึกรักธรรมชาติ และอยากปกป้องโลกของเราให้น่าอยู่ ให้มีระบบนิเวศที่ถูกต้องและมนุษย์ไม่ไปรุกรานธรรมชาติอยู่ด้วยกันอย่างมีสันติ นี่ถ้าพวกต้นไม้ ผืนดิน มหาสมุทร สัตว์น้อยใหญ่ต่างๆ รู้วิธีผลิตอาวุธนิวเคลียร์ล่ะก็ พวกมันคงยิงใส่มนุษย์ตายหมดแล้ว โทษฐานบุกรุกและแย่งชิงบ้านของมัน
ก็เน้นไปเรื่องของธรรมชาติของญี่ปุ่น และมีโรงหนังสามมิติที่ฉายแบบ 360 องศา คุณจะรู้สึกเหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ที่เขาฉายให้ดู สารคดีที่ฉายก็มีหลายเรื่องล้วนแต่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก เรื่องราวของไดโนเสาร์ ฯลฯ นอกจากว่าเขาจะอยากให้คนมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและที่มาที่ไปของโลกใบกลมนี้เขายังหวังปลุกจิตสำนึกให้คนรู้สึกรักธรรมชาติ และอยากปกป้องโลกของเราให้น่าอยู่ ให้มีระบบนิเวศที่ถูกต้องและมนุษย์ไม่ไปรุกรานธรรมชาติอยู่ด้วยกันอย่างมีสันติ นี่ถ้าพวกต้นไม้ ผืนดิน มหาสมุทร สัตว์น้อยใหญ่ต่างๆ รู้วิธีผลิตอาวุธนิวเคลียร์ล่ะก็ พวกมันคงยิงใส่มนุษย์ตายหมดแล้ว โทษฐานบุกรุกและแย่งชิงบ้านของมัน
เห็นมั้ยว่าแค่มาสวนสาธารณะเราก็ได้เห็นและเรียนรู้อะไรต่างๆ ที่เกี่ยวกับญี่ปุ่นมากมาย ทั้งธรรมชาติ คน ความรู้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และฮีโร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น