ตามธรรมเนียมการแต่งงานของชาวฮินดูนั้นค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน มีพิธีหลายขั้นตอน แต่ละตระกูลหรือแต่ละเมืองก็มีรายละเอียดของพิธีที่แตกต่างกันออกไป ใช้เวลาหลายวันกว่าจะครบทุกพิธี ทั้งบ่าวสาวและญาติพี่น้องเหนื่อยเอาการ อย่างคืนวันนี้ก็เป็นการนำของหมั้นไปให้ว่าที่เจ้าสาวที่บ้าน โดยที่ญาติพี่น้องของจูเกชไปกันพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ส่วนจูเกชไม่ได้รับอนุญาตให้ไป ฉันก็เลยติดสอยห้อยตามญาติๆ เขาไปด้วยเพื่อทำการบันทึกภาพและความทรงจำดีๆ นับเป็นโอกาสดีที่ได้ไปเห็นพิธีแต่งงานของชาวเนปาลแบบระยะใกล้ชิด
ของที่เขานำติดไม้ติดมือไปให้กับว่าที่เจ้าสาวและครอบครัวนั้นประกอบไปด้วยขนมหลากหลายชนิดนับได้เกือบ 30 ถาด ซึ่งแต่ละอย่างน่าจะมีความหมายในทางที่ดี ไหนจะมีผลไม้อีกหลายอย่าง ของใช้ส่วนตัว ของเจ้าสาวประเภทเครื่องสำอางค์และเครื่องบำรุงผิว แล้วยังมีเค้กก้อนโต ซึ่งเมื่อเจ้าสาวผ่านการทำพิธีทางศาสนาแล้วก็จะทานพอเป็นพิธี ของเหล่านี้ในวันรุ่งขึ้นทางบ้านเจ้าสาวก็จะนำไปเลี้ยงบรรดาญาติๆฝั่งตน ซึ่งพ่อแม่และญาติพี่น้องก็จะนำของขวัญมาให้แก่เจ้าสาว แต่เป็นการจัดกันเองทางฝั่งเจ้าสาว ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวรวมทั้งตัวเจ้าบ่าวไม่ได้รับเชิญ
ริซ่าแต่งตัวด้วยชุดสาหรี่สีแดงปักดิ้นทองสวยงามดูหรูหราและสง่างามมาก สีแดงคือสีที่ใช้สำหรับงานแต่งงาน นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเจ้าสาวของจูเกช ริซ่าสวยไม่เบา ผมยาวหยักศกถูกรวบไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวคล้ำออกแทนๆ รูปร่างแบบบาง กริยาท่าทางอ่อนหวานออกไปทางขี้อาย
คนที่มาร่วมในพิธีส่วนใหญ่เป็นญาติสนิทของทั้งสองฝ่าย มีเพียงเจ้าบ่าวเท่านั้นที่ไม่ได้มา ฉันแอบสังเกตดูริซ่าและญาติๆ เธออย่างไม่กระโตกกระตาก แต่คงไม่ช่วยอะไรเพราะฉันเป็นคนต่างชาติคนเดียวในที่นั้น ถึงแม้ว่าหน้าตาฉันจะไม่ได้ดูแตกต่างจากคนเนปาลนัก แต่ทรงผม การแต่งตัว และกริยาท่าทางคงบอกได้ชัดเจนว่าไม่ใช่คนท้องถิ่นอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่มีใครที่ทำท่ารังเกียจฉันซักนิด กลับให้การต้อนรับอย่างดีและอบอุ่่น
หลังจากเสร็จพิธีแล้ว ทางฝ่ายเจ้าสาวก็จัดหาอาหารมาเลี้ยงรับรองแขกให้อิ่มหนำก่อนกลับบ้าน ฉันและญาติๆ ของจูเกชจึงใช้เวลาที่บ้านริซ่าอีกพักใหญ่กว่าจะกลับออกมา
บ้านของริซ่านั้นอยู่ใจกลางเมืองปาตันมีอาณาบริเวณค่อนข้างใหญ่เพราะอยู่กันหลายครอบครัว ถ้ามองจากมุมสูงก็น่าจะเป็นเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมที่มีรูโบ๋ตรงกลางเป็นลานกว้างๆ รอบๆ เป็นบ้านแต่ละหลังต่อกัน มีทางเข้าเป็นของตัวเอง และมีห้องโถงกลางไว้สำหรับต้อนรับแขกเวลาจัดงานใหญ่ๆ ซึ่งเป็นที่ที่ญาติๆ จูเกชนำของหมั้นมาวางไว้ให้บนพื้นในคืนนี้ ริซ่ามีพี่ชายและน้องสาว หน้าตาดีทั้งบ้าน และแต่ละคนก็มีการศึกษาค่อนข้างดี ส่วนใหญ่ทุกคนจะพูดภาษาอังกฤษได้ดี และมีสำเนียงที่ไม่กระดกลิ้นมาก ทำให้ฟังเข้าใจได้ไม่ยากนัก ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งไปเรียนจบจากมหาวิทยาลัยที่ประเทศสวีเดน เขาซักถามที่มาที่ไปของฉันอย่างไม่เสียมารยาท คงแปลกใจที่ทำไมอยู่ดีๆ ผู้หญิงไทยคนนี้ถึงมาร่วมพิธีของน้องสาวเขาได้
คืนนั้นฉันยังไม่ได้มีโอกาสแนะนำตัวและพูดคุยกับริซ่าเท่าไหร่นัก เพราะไม่สบโอกาสเหมาะ แต่ก็ได้ถ่ายรูปสวยๆ ของเธอไปจำนวนหนึ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น