12 เมษายน 2554

6. ฝ่าภูเขาร้อยเลี้ยว

     วันถัดมาฉันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปโพคราโดยมีจูเกชมารับที่โรงแรม 
     รถที่มารับเป็นรถแบบขับเคลื่อนสี่ล้อมาพร้อมกับคนขับหน้าเข้ม เขาทำหน้าตกใจนิดหน่อยกับกระเป๋าใบโตของฉัน
     ก่อนที่จะออกเดินทาง เราแวะไปรับเพื่อนของจูเกชที่บ้านเขากันก่อนซึ่งอยู่นอกเมืองกาฐมาณฑุ “ซูนิม” (Sunim) กับ “ภราวาติกา” (Pravatika) เป็นคู่สามีภรรยา ซูนิมเป็นเพื่อนร่วมงานกับจูเกชที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ ลักษณะท่าทางเป็นคนเคร่งเครียด เอาจริงเอาจัง มีหลักการ แต่ก็มีมนุษย์สัมพันธ์และน้ำใจอันดีส่วนภราวาติกา เป็นหญิงสาวตัวเล็ก หน้าตาท่าทางใจดี ยิ้มหวาน และช่างเอาใจใส่กับทุกๆ เรื่อง
     จูเกชจัดแจงชวนเพื่อนทั้งสองไปโพคราด้วยกันเพื่อที่ว่าฉันจะได้นอนห้องเดียวกับภราวาติกา ในขณะที่ซูนิมสลับไปนอนกับจูเกช ช่างเป็นการวางแผนที่แยบยลเพราะเขาก็มีเพื่อนไปช่วยทำงานด้วยกัน ส่วนฉันก็มีเพื่อนพาเที่ยวในขณะที่หนุ่มๆ เข้าประชุมและทำงานระหว่างวัน แถมยังไม่ต้องเสียเงินค่าโรงแรม
     การเดินทางไปโพครานั้นไปได้หลายทาง ที่รวดเร็วสุดก็คือเครื่องบิน ส่วนวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยมที่สุดคงเป็นรถบัส เพราะสะดวก ราคาย่อมเยา แต่ใช้เวลาค่อนข้างนาน ขึ้นอยู่กับสภาพการณ์ ถ้าเป็นช่วงหลายปีที่แล้วก็อาจต้องผจญกับพวกเหมาอิสท์ที่อาจจะมาขูดรีดเงินจากนักท่องเที่ยวเป็นค่าคุ้มครองและค่าผ่านทาง ถ้าช่วงฝนตกก็เดินทางลำบากมากขึ้นเพราะทางลัดเลาะลดเลี้ยวไปกับภูเขา ต้องขับอย่างระมัดระวัง รถจะสวนกันทีก็ต้องหยุดและแบ่งๆ กันไป สำหรับฉันโชคดีที่ได้นั่งรถส่วนตัวเลยประหยัดเวลาไปได้เยอะ เพราะสมรรถภาพของรถค่อนข้างดีด้วยเลยใช้เวลาไปประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
     โพคราอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกของกาฐมาณฑุประมาณ 198 กม. เท่านั้นเอง ประมาณระยะจากกรุงเทพไปหัวหิน แต่ใช้เวลาเดินทางผิดกันมากเพราะสภาพภูมิประเทศและการคมนาคม โพคราเป็นเมืองยอดฮิตของนักท่องเที่ยวรองๆ จากเมืองหลักในหุบเขากาฐมาณฑุ เพราะเป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติคือขุนเขาหิมาลัยอันยิ่งใหญ่ มีหลายยอดเขาที่มีชื่อเสียง คนที่รักการเดินเขามักจะมาเริ่มจากที่นี่หรือถ้ามาเที่ยวชมธรรมชาติเฉยๆ ก็มีกิจกรรมยอดฮิตคือตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดเขาก็เป็นภาพที่อัศจรรย์ตาแล้ว
     เราแวะพักระหว่างทางเพื่อทานอาหารเช้า ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ข้างทาง มีอาหารแบบชาวบ้านไว้บริการนั่นก็คือถั่วต้มทานกับข้าวบาร์เล่ย์และชานมร้อนถ้วยโปรดของฉัน ทำให้ท้องอุ่นจากความหนาวเย็นขึ้นได้บ้าง หลังจากนั้นเราออกเดินทางไปอีกพักใหญ่ก่อนที่จะแวะทานข้าวกลางวันท่ามกลางบรรยากาศค่อนข้างดีเพราะร้านอยู่ในอาณาบริเวณค่อนข้างกว้าง มีที่นั่งภายในสวนให้พักผ่อนยืดเส้นยืดสายคลายเมื่อยได้ดีทีเดียว ร้านนี้มีอาหารทั้งแบบพื้นเมืองและแบบที่เอาใจชาวต่างชาติเช่นฉัน

   
     หลังจากนั้นเราเดินทางตรงไปยังโรงแรมฟูลบารี (Fulbari) ที่เราจะพักเป็นเวลาสองคืนด้วยกัน โรงแรมนี้เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ค่อนข้างหรูหรา มีพื้นที่กว้างใหญ่ มีวิวเทือกเขาหิมาลัยเป็นแนวยาว สวนรึก็กว้างเดินเล่นหย่อนใจได้สบายๆ มีสัตว์เลี้ยงเดินอวดโฉมอยู่ภายในสวนอย่างมีอิสระ เช่น นกยูง แถมยังตั้งอยู่บนที่สูงที่ด้านข้างเป็นหุบเขาลึกลงไปมีแม่น้ำไหลผ่าน ทำให้มีวิวที่สวยงามแตกต่างจากที่อื่นอย่างสิ้นเชิง การตกแต่งนั้นใช้ศิลปะแบบพื้นเมืองในขณะที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกแบบสมัยใหม่อย่างครบครัน มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งที่มีวิวด้านหน้าเป็นภูเขาหิมาลัยทอดตัวยาวสวยงาม 
     เมื่อไปถึงเราต่างแยกย้ายกันไปเก็บของที่ห้องพักซึ่งอยู่ชั้นล่างสุดมีระเบียงที่เดินออกไปถึงสวนได้เลย ภราวาติกาขอตัวงีบซักหน่อยเพราะคงเพลียจากการเดินทาง ส่วนฉันความตื่นเต้นมีมากจนยั้งใจไม่อยู่ต้องออกไปเดินสำรวจและเก็บภาพของโรงแรมตามภาษานักท่องเที่ยวช่างอยากรู้


     ฉันรู้สึกประทับใจในความสวยงามของโรงแรมมากและรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาอยู่ที่นี่ แถมยังอยู่ฟรีอีกต่างหาก คิดๆ ไปฉันเองก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับจูเกชมากนัก ฉันเป็นเพียงแค่นักท่องเที่ยวที่ต่อรองราคาค่าห้องพักจนได้รู้จักเป็นเพื่อน ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นบุญคุณกับเขา แต่น่าแปลกที่เขากลับปฏิบัติกับฉันอย่างดีมากประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน
     คงไม่มีใครรู้หรอกว่าระหว่างที่เราใช้ชีวิตไปวันๆ จะมีอะไรที่ดีหรือไม่ดีเข้ามาหาเราบ้าง คนดีมีก็จริงแต่คนชั่วก็มีมาก ชีวิตคือความเสี่ยง แต่ฉันเชื่อเสมอว่าถ้าเราหมั่นทำความดี ปฏิบัติต่อคนที่เราพบเจออย่างดีไม่ว่าเขาจะเป็นคนใกล้ตัวเราหรือไม่ เราจะได้สิ่งดีๆ ตอบกลับมา อาจมาในรูปแบบที่เราไม่ได้หวังไว้เพราะบางทีมันก็ดีเกินคาดจนไม่คิดว่าน่าจะเป็นไปได้ นั่นคงเป็นสิ่งทดแทนให้กับบางหนที่เราถูกปฏิบัติแย่ๆ จากคนที่เราตั้งใจทำดีกับเขา  เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ดีที่สุดก็อย่าหวังว่าจะได้อะไรตอบแทนจากสิ่งที่เราได้ทำลงไป ขอให้มีความตั้งใจทำ ตั้งใจดี แค่นี้ก็สบายใจแล้ว
     การเดินทางครั้งนี้เร่ิมที่จะนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตฉันเรื่อยๆ ทำให้ความรู้สึกแย่ๆ ในใจค่อยๆ จางหายไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น