19 พฤษภาคม 2554

22. โบกมือลาหิมาลัย

     เช้าวันนี้เราถือโอกาสตื่นสายหน่อยเพราะเมื่อคืนนอนค่อนข้างดึก เราเกไม่ไปดูขบวนแห่รถลากกับพี่ธันวาที่ตื่นไปตั้งแต่ตีห้า วันนี้เป็นพิธีที่ผู้หญิงจะเป็นคนลากรถ และบริเวณที่ลากก็อยู่ในเขตที่บ้านพี่ธันวาอยู่ รู้สึกเสียดายนิดหน่อยแต่รู้สึกเพลียมากกว่า
     เช้านี้เราทานอาหารเบาๆ คือข้าวต้มกับน้ำพริกผักและมีขนมโรตีห่อแป้งทอดกรอบของโปรดพี่ตุ๊กภายในบริเวณครัวพี่สาวพี่ธันวาตระเตรียมเทียนบูชาพระแบบทำเอง ก่อนที่เราจะออกจากบ้านสาริตาเตรียมถาดที่มีเหรียญและจุดไฟเพื่อให้เราทำพิธีลาจากบ้าน เมื่อมาถึงเขาก็เตรียมติกกาที่เจิมที่หน้าผากเป็นการต้อนรับ เมื่อเวลาต้องจากไปก็ให้ใส่เหรียญลงไปในเหยือกขนาดย่อมที่มีน้ำ ฉันถ่ายรูปครอบครัวอาวาเล่ไว้เป็นที่ระลึก ทุกคนมาส่งเราอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา (จริงๆ แล้วเขามาส่งพี่ธันวาต่างหาก)



     เวลาประมาณ 10 โมงเช้าจูเกชก็มาถึงที่บ้านเพื่อจะมาร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย เขานำเอา
แพชมิน่าสองผืนมาให้ฉันและพี่ตุ๊กเพื่อเป็นที่ระลึก ของฉันสีชมพูและของพี่ตุ๊กสีฟ้า ดูๆไปเขาก็เป็นคนช่างสังเกตไม่น้อยรู้ว่าใครเหมาะกับสีอะไร แพชมีน่าเป็นของฝากที่ดีอีกหนึ่งอย่างจากเนปาล คุณภาพมีให้เลือกหลากหลายและราคาไม่แพงด้วย
     ฉันรู้สึกใจหายนิดหน่อยเมื่อเวลาเดินทางมาถึง ฉันร่ำลาจูเกชแค่ตรงหน้าบ้านเท่านั้น เพราะถึงแม้จะเป็นวันอาทิตย์แต่ก็เป็นวันทำงานของคนเนปาล สำหรับครอบครัวอาวาเล่ดูเศร้านิดหน่อยโดยเฉพาะคุณแม่เพราะต้องจากลูกชายอีกครั้ง จะมีโอกาสพบหน้าพบตากันอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ท่านคงอยากให้ลูกชายคนโตกลับมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน มาครั้งนี้ก็มัวแต่พาเราเที่ยวไม่ได้ใช้เวลากับครอบครัวมากเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่จะเห็นล้อมวงคุยกันตอนช่วงดึกๆ หลังจากที่เราไปเที่ยวกันจนกลับมาบ้าน ด้วยหน้าที่การงานที่รัดตัวพี่ธันวาจึงไม่สามารถที่จะเดินทางกลับบ้านได้บ่อยๆ อย่างที่ตั้งใจ



     ถนนที่เดินทางไปสนามบินนั้นติดขัดนิดหน่อยเพราะยังมีกลุ่มประท้วงอยู่บ้างประปราย และเมื่อเราไปถึงด้านในแถวที่ต่อเพื่อเช็คอินนั้นก็ยาวยืดเพราะว่าระบบคอมพิวเตอร์เสียทำให้พนักงานต้องใช้ระบบเช็คอินแบบ manual คือเขียนด้วยมือ กว่าจะผ่านไปได้แต่ละรายต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก และต้องไปรอเวลาขึ้นเครื่องอีกพักหนึ่ง
     เมื่อได้ขึ้นเครื่องก็ใจหาย เตรียมตัวโบกมือลาเทือกเขาหิมาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ทุกครั้งที่มาที่นี่ฉันไม่เคยรู้สึกว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายซักครั้ง ยังคงมีความรู้สึกว่าจะต้องได้กลับมาอีกไม่ช้าก็เร็ว ยังมีอีกหลายที่ที่ฉันยังไม่เคยไป ครั้งหน้าอยากจะไปเทรกกิ้งเล็กๆ ที่หมู่บ้านที่ห่างไกลออกไป อยากลองไปอยู่นอกเมืองให้นานหน่อย สูดอากาศบริสุทธิ์ เสพธรรมชาติป่าเขาให้สบายอารมณ์
     การที่ฉันได้มาเนปาลถึงสามครั้งแล้วนั้นคงไม่ใช่เรื่องธรรมดา ทุกครั้งก็รู้สึกคุ้นเคยและมีความสุขเมื่ออยู่ที่ประเทศนี้ มากไปกว่านั้นรู้สึกผูกพันกับคนที่นี่ คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่เราจะสามารถพบและรู้จักคนแปลกหน้า สร้างความสัมพันธ์จนกลายมาเป็นเพื่อนกัน ที่ยากไปกว่านั้นก็คือการที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีนั้นไว้ได้ มีโอกาสเห็นการเจริญก้าวหน้า ความเปลี่ยนแปลง แบ่งปันความสุข ความทุกข์ พูดคุยใช้เวลาด้วยกันแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละครั้ง
     ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยความบังเอิญ กลับกลายเป็นความผูกพันยาวนาน คงไม่ใช่ทุกคนที่จะได้พบกับประสบการณ์แบบนี้ เพราะฉะนั้นฉันต้องรักษามันไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ คงมีเรื่องราวไม่คาดฝัน อุปสรรค ความทุกข์ยากลำบากเกิดขึ้นมากมายในอนาคตของเราทั้งสอง แต่อย่างน้อยเราจะจำไว้เสมอว่ามีเรื่องราวเล็กๆ ที่ดีที่เกิดขึ้นระหว่างเรา และขยายวงกว้างแผ่ออกไปสู่ครอบครัวและเพื่อนรอบข้างเรา
     แล้วคุณล่ะ เคยคิดอยากให้การเดินทางนำมาซึ่งเรื่องดีๆ บ้างมั้ย ถ้าอยากก็อย่ารอช้า รีบจัดกระเป๋าออกเดินทาง เปิดใจให้กว้าง และพร้อมที่เป็นผู้เริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ดีๆ แล้วคุณจะรู้ว่าการเดินทางให้อะไรมากกว่าความสนุก การผจญภัย และการเห็นสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ เพราะถ้าคุณกล้าที่จะสัมผัสให้ลึกไปกว่านั้น ... คุณจะได้มุมมองที่แตกต่างและลึกซึ้งกว่าที่เคย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น