ถ้ามองจากมุมด้านบนก็จะมีลักษณะเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมที่เว้นที่ตรงกลางให้กับสวนและน้ำพุ
นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปชมด้านในได้ สถาปัตยกรรมค่อนข้างสวยงามละเอียดอ่อน
มีเสาไม้ถึง 370 ต้นโดยรอบ และภายในปูด้วยพรมเล็กๆ ต่อกันเพื่อให้ผู้คนได้มาสวดมนต์ โดยหันหน้าไปทางทิศที่เมกกะอยู่ ในวันศุกร์ซึ่งเป็นวันที่ชาวมุสลิมมาสวดมนต์นั้นก็จะแน่นไปด้วยผู้คนท้องถ่ิน แต่วันที่เราไปมีเพียงไม่กี่คนที่มาทำพิธี หลังจากนั้นดีนพาเราไปเดินตลาดที่อยู่รอบๆ มัสยิด ซึ่งมีของขายมากมายและแทบจะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัว ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า อาหารการกิน ฯลฯ ตลาดนี้เป็นตลาดของคนท้องถิ่นเพราะฉะนั้นราคาของก็จะ
ไม่แพง และเราสามารถเดินกระทบไหล่กับชาวบ้านที่นี่ได้อย่างใกล้ชิด
มีเสาไม้ถึง 370 ต้นโดยรอบ และภายในปูด้วยพรมเล็กๆ ต่อกันเพื่อให้ผู้คนได้มาสวดมนต์ โดยหันหน้าไปทางทิศที่เมกกะอยู่ ในวันศุกร์ซึ่งเป็นวันที่ชาวมุสลิมมาสวดมนต์นั้นก็จะแน่นไปด้วยผู้คนท้องถ่ิน แต่วันที่เราไปมีเพียงไม่กี่คนที่มาทำพิธี หลังจากนั้นดีนพาเราไปเดินตลาดที่อยู่รอบๆ มัสยิด ซึ่งมีของขายมากมายและแทบจะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัว ของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า อาหารการกิน ฯลฯ ตลาดนี้เป็นตลาดของคนท้องถิ่นเพราะฉะนั้นราคาของก็จะ
ไม่แพง และเราสามารถเดินกระทบไหล่กับชาวบ้านที่นี่ได้อย่างใกล้ชิด

มัสยิดสีเขียว
(Green Masjid หรือ Shah Hamdan) นั้นถูกสร้างด้วยไม้ทั้งหลังโดยไม่ใช้ตะปูเลย สถาปัตยกรรมนั้นสวยงามมากๆ สีสันสดใส
มีกระเบื้องเพ้นท์ลายดอกไม้ตกแต่งโดยรอบบริเวณ เราได้รับอนุญาตให้เดินดูแต่เพียงภายนอกเท่านั้น
เพราะคนที่ไม่ใช่มุสลิมไม่มีสิทธิ์เข้าไปด้านในรวมไปถึงผู้หญิง ว่ากันว่าบริเวณเพดานและกำแพงนั้นทำจาก
Papier Mache หรือกระดาษที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ จนแข็งและเพ้นท์ลายสวยงาม เคยเห็นรูปจากเว็บไซต์
และอยากสัมผัสความงามที่ละเอียดอ่อนแต่ไม่นึกว่าจะถูกกีดกัน
ฉันรู้สึกชื่นชมในความงามบางอย่างแต่ก็ไม่ชื่นชอบการแบ่งแยกเพศของที่นี่ ระหว่างที่ยืนชื่นชมลายผนังและกำแพงนั้น
ฉันเห็นหญิงชาวมุสลิมเดินไปด้านหน้าประตูทางเข้าและลูบๆ ขอบประตูเอามาลูบหัวและกราบไหว้ ชะเง้อมองเข้าไปด้านในแต่ไม่มีโอกาสเข้าในขณะที่ผู้ชายสามารถเดินผ่านเข้าไปได้อย่างฉลุย ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงต้องแบ่งแยกขนาดนั้น ฉันเชื่อว่าผู้หญิงก็มีศรัทธาในศาสนาพอๆ กับผู้ชาย เผลอๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำเพราะเพศหญิงเป็นเพศที่ต้องยอมทนกับความไม่เสมอภาคหลายๆ อย่าง ถ้าเขาไม่ทำไปด้วยความเชื่อและใจศรัทธาแล้วเขาจะทำไปเพื่ออะไร ฉันเก็บความข้องใจนั้นไว้กับตัวและกะว่าจะหาโอกาสเหมาะๆ ถามจากดีน
ฉันเห็นหญิงชาวมุสลิมเดินไปด้านหน้าประตูทางเข้าและลูบๆ ขอบประตูเอามาลูบหัวและกราบไหว้ ชะเง้อมองเข้าไปด้านในแต่ไม่มีโอกาสเข้าในขณะที่ผู้ชายสามารถเดินผ่านเข้าไปได้อย่างฉลุย ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงต้องแบ่งแยกขนาดนั้น ฉันเชื่อว่าผู้หญิงก็มีศรัทธาในศาสนาพอๆ กับผู้ชาย เผลอๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำเพราะเพศหญิงเป็นเพศที่ต้องยอมทนกับความไม่เสมอภาคหลายๆ อย่าง ถ้าเขาไม่ทำไปด้วยความเชื่อและใจศรัทธาแล้วเขาจะทำไปเพื่ออะไร ฉันเก็บความข้องใจนั้นไว้กับตัวและกะว่าจะหาโอกาสเหมาะๆ ถามจากดีน

จุดหมายปลายทางสุดท้ายของวันนี้คือบ้านเรือซึ่งเมื่อเรากลับเข้าไปแล้วก็แปลว่าเราจะไม่ไปไหนอีก
นอกซะจากพายเรือเล่นอยู่ในทะเลสาปดาล
รู้สึกเหมือนเป็นเด็กโรงเรียนประจำ
ไปไหนต้องขออนุญาตครูใหญ่ก่อน แต่เพื่อเป็นการใช้เวลาให้คุ้มค่า ฉันกับนฐขอแวะร้านอินเตอร์เน็ตเหมือนเช่นเคยส่วนพี่ลีกับดีนไปเดินเล่นแถวๆ ถนนบูลเลอร์วาร์ดแก้เบื่อ โดยเรานัดแนะเวลาไปเจอกันที่เรือชิคาร่าเมื่อทุกคนเสร็จธุระของตัวเอง ดูเหมือนพี่ลีจะพูดคุยถูกคอกับดีนมากกว่าใคร คนบางคนก็สื่อถึงกันได้ง่ายกว่าคนอื่นคล้ายว่าจูนคลื่นตรงกัน ฉันว่าการจะเข้าถึงใจใครได้นั้นคงต้องลองเปิดตัวเองเปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดเห็นความรู้สึกของคนนั้นๆ ก่อน ถ้าเรื่องที่พูดคุยนั้นเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของคนคนนั้นหรือมีความคิดอ่านความชอบคล้ายๆ กันก็ทำให้ต่อกันติดได้ง่าย ไม่น่าเชื่อว่าดีนจะอายุไม่ถึง 40 ปี เพราะดูจากรูปลักษณ์ภายนอกที่หนวดเคราเฟิ้มประกอบกับริ้วรอยของความตรากตรำบนใบหน้าเราจึงเผลอเรียกเขาว่าลุงตั้งแต่แรกพบ
ไปไหนต้องขออนุญาตครูใหญ่ก่อน แต่เพื่อเป็นการใช้เวลาให้คุ้มค่า ฉันกับนฐขอแวะร้านอินเตอร์เน็ตเหมือนเช่นเคยส่วนพี่ลีกับดีนไปเดินเล่นแถวๆ ถนนบูลเลอร์วาร์ดแก้เบื่อ โดยเรานัดแนะเวลาไปเจอกันที่เรือชิคาร่าเมื่อทุกคนเสร็จธุระของตัวเอง ดูเหมือนพี่ลีจะพูดคุยถูกคอกับดีนมากกว่าใคร คนบางคนก็สื่อถึงกันได้ง่ายกว่าคนอื่นคล้ายว่าจูนคลื่นตรงกัน ฉันว่าการจะเข้าถึงใจใครได้นั้นคงต้องลองเปิดตัวเองเปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดเห็นความรู้สึกของคนนั้นๆ ก่อน ถ้าเรื่องที่พูดคุยนั้นเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของคนคนนั้นหรือมีความคิดอ่านความชอบคล้ายๆ กันก็ทำให้ต่อกันติดได้ง่าย ไม่น่าเชื่อว่าดีนจะอายุไม่ถึง 40 ปี เพราะดูจากรูปลักษณ์ภายนอกที่หนวดเคราเฟิ้มประกอบกับริ้วรอยของความตรากตรำบนใบหน้าเราจึงเผลอเรียกเขาว่าลุงตั้งแต่แรกพบ
ระหว่างทางก่อนจะกลับไปบ้านเรือดีนถามเราว่าอยากไปดูร้าน
Papier Mache รึเปล่า คงไม่กล้าผลีผลามพาเราไปโดยไม่บอกเพราะคงกลัวฤทธิ์เดชของเรา
ฉันคิดว่าจะไปหาซื้อของฝากที่นั่นเพราะยังไม่มีอะไรติดมือกลับบ้านเลย ร้านนี้ตั้งอยู่อีกคุ้งน้ำนึงแต่ไม่ไกลจากคริสตัล
พาเลสนัก เป็นโชว์รูมขนาดไม่ใหญ่โต เจ้าของออกมาต้อนรับเราถึงท่าเรือด้วยตัวเองและพาขึ้นไปยังชั้นสองที่ตั้งโชว์ผลิตภัณฑ์จากกระดาษหลากหลายรูปแบบระรานตา
พาเลสนัก เป็นโชว์รูมขนาดไม่ใหญ่โต เจ้าของออกมาต้อนรับเราถึงท่าเรือด้วยตัวเองและพาขึ้นไปยังชั้นสองที่ตั้งโชว์ผลิตภัณฑ์จากกระดาษหลากหลายรูปแบบระรานตา
ก่อนอื่นเขาขอสาธิตวิธีการทำก่อนเพื่อสร้างความประทับใจ
ขั้นแรกนำเศษกระดาษมาแช่น้ำและนำไปปะบนแม่พิมพ์
ซึ่งจะเป็นรูปอะไรก็แล้วแต่ เช่นกล่อง แจกัน ช้าง ที่ใส่จดหมาย ฯลฯ ทำซ้ำๆ
หลายชั้นมากเพื่อให้แข็งไม่แตกหักได้ง่าย
ขั้นตอนต่อไปคือการนำไปตากแดดให้แห้งสนิทและใช้ค้อนทุบๆๆ
ให้เนื้อแน่นจะได้แข็งแรงไม่บอบบาง
แล้วก็ถึงขั้นตอนการลงสี
โดยเร่ิมจากวาดลวดลายที่ต้องการโดยวิธี free hand แล้วจึงลงสี วิธีการวาดแบบนี้ทำให้ของแต่ละชิ้นมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่มีช้ินไหนเหมือนกับชิ้นไหนแม้จะเป็นลายและสีเดียวกัน
ต่อไปก็ปิดด้วยทองคำเปลวชนิดเดียวกับที่เราใช้ปิดทองที่พระพุทธรูป
ขั้นตอนสุดท้ายคือลงแลคเกอร์ชนิดมันเคลือบให้สีไม่ลอก
โหกว่าจะได้แต่ละช้ินใช้เวลาประมาณ
3 วัน เห็นแบบนี้แล้วเราเลยเห็นคุณค่าของแต่ละชิ้นมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
ขั้นตอนเสริมสุดท้ายท้ายสุดก็คือการเดินเลือกซื้อช้ินที่ถูกใจ
คุณลุงเจ้าของร้านปล่อยให้เราเลือกลงตะกร้าใครตะกร้ามัน พร้อมข้อเสนอน่าสนใจคือลด
15% ระหว่างนั้นมีคุณลุงที่เป็นพนักงานห่อของพยายามที่จะหยิบชิ้นโน้นชิ้นนี้มาให้ฉัน
เห็นฉันเลือกของช้ินไหนแกก็ไปเลือกของชนิดอื่นที่เป็นลายเดียวกันมาให้
ฉันรู้สึกว่าแกน่ารักดีเหมือนอยากมีส่วนร่วม แต่ฉันก็แอบเอาของกลับไปวางไว้ที่เดิมโดยไม่ให้แกเห็นกลัวจะเสียใจ
หารู้ไม่ว่าเมื่อกลับมาถึงเมืองไทยแล้วแกะของออกดูกลับมีช้างเป็นของกำนัลเพ่ิมมาอีกหนึ่งตัว
สงสัยแกคงถูกชะตากับฉันล่ะมังเลยแอบให้ของขวัญ ยังนึกถึงหน้าอมยิ้มของแกได้ชัดเจนเหมือนพยายามจะบอกอะไรกับฉันแต่ก็ต้องระวังไม่ให้เจ้าของร้านเห็น
เราได้ของกันคนละเกือบสิบชิ้นเพราะราคาไม่แพงและมีคุณภาพดีลวดลายสวยงามเหมาะกับการเป็นของฝากสร้างความประทับใจให้ผู้รับ
ผลิตภัณฑ์ของที่นี่มีให้เลือกค่อนข้างจะเยอะ และมีหลายรูปแบบ หลายลาย หลายสีให้เลือกหา
คงต้องมีชิ้นไหนที่ถูกใจคุณกันบ้างล่ะน่ะ
ระหว่างทางกลับบ้านเรือมีเรือของพ่อค้ามาเทียบเรือเราแบบประชิดตัวพร้อมกับขนเครื่องประดับต่างๆ
เช่น สร้อยคอ สร้อยคือมือ จี้ แหวน อ้างว่าทำจากเงินและหินมีค่า เขาหยิบขึ้นมาแล้วก็มาพาดไว้กับตักฉันบ้าง
สวมใส่ในมือฉันบ้าง
ฉันพยายามปฏิเสธแบบสุภาพ
“ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณ”
“ถ้าคุณไม่ชอบแบบนี้
ผมมีแบบอื่นอีก นี่ไง” พูดไปก็หยิบของชิ้นใหม่ๆ ออกมาพาดขาฉันเต็มไปหมด
“ไม่เป็นไร
ฉันไม่ชอบใส่เครื่องประดับ เห็นมั้ยว่าในตัวฉันไม่มีเครื่องประดับอะไรเลย ฉันเป็นคนจนไม่มีเงินซื้อของพวกนี้หรอก”
“ผมขายให้ถูกๆ
เลยนะ เส้นนี้ 10 ดอลล่าห์ อันนี้ 5 ดอลล่าห์”
ฉันหยิบสร้อยทั้งหมดและยื่นคืนไปให้เขา
“ไม่เป็นไรค่ะ
ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไรได้ไง
ผมขายอะไรไม่ได้เลย” เขาเริ่มทำเสียงขุ่นเคือง ทำหน้ารันทด
“ก็ฉันไม่ต้องการของพวกนี้นี่นา”
“คุณอยากได้อะไรบอกมาเลยเดี๋ยวผมขายให้ถูกๆ”
“ฉันต้องการอะไรน่ะเหรอ
ฉันต้องการความสงบและสันติภาพค่ะ” ฉันตอบ หวังใจว่าเขาจะเข้าใจและยอมแพ้
แต่ไม่ ... เขายังดึงดันต่อไป
หยิบนู่่นหยิบนี่ขึ้นมาโชว์จะให้ฉันซื้อให้ได้
ฉันเลยงัดมุกเด็ดของวันนี้ที่เพิ่งคิดได้สดๆ
“ฉันปวดหัวมากเลยเนี่ย
สงสัยว่าฉันจะต้องแวะไปหาบาบาซะแล้ว”
เมื่อฉันเอ่ยชื่อบาบาเหมือนเป็นคำศักดิ์สิทธิ์
เขายอมหยุดและจากไป
บาบาเป็นผู้ที่คนที่นั่นให้ความเคารพนับถือ
ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่พ่อมด ไม่ใช่หมอดู แต่เป็นผู้ซึ่งมีความสามารถพิเศษในการรักษาอาการป่วยของคนไม่ว่าจะเป็นโรคอะไร
ลักษณะของบาบา
ที่ทะเลสาปดาลนั้นไว้ผมสั้นเกรียนทรงสกินเฮด แต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองสีขาว ดูเคร่งขรึม และดูเหมือนว่าคนทั้งทะเลสาปให้ความเคารพนับถือบาบาอย่างมาก อามิน (Amin) พนักงานพายเรือชิคาร่าของบ้านเรือเล่าให้ฟังว่าบางทีมีผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคปวดท้องแต่ไม่ทราบสาเหตุ
พอไปปรึกษาท่านบาบาท่านก็เขียนอะไรบางอย่างในกระดาษและขยำใส่ลงไปในเหยือกน้ำ
เมื่อผู้หญิงคนนั้นดื่มเข้าไปก็หายจากอาการ เขาบอกว่าอาการจะหายหรือไม่นั้นอยู่ที่ความเชื่อของบุคคลนั้นๆ ด้วย
ที่ทะเลสาปดาลนั้นไว้ผมสั้นเกรียนทรงสกินเฮด แต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองสีขาว ดูเคร่งขรึม และดูเหมือนว่าคนทั้งทะเลสาปให้ความเคารพนับถือบาบาอย่างมาก อามิน (Amin) พนักงานพายเรือชิคาร่าของบ้านเรือเล่าให้ฟังว่าบางทีมีผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคปวดท้องแต่ไม่ทราบสาเหตุ
พอไปปรึกษาท่านบาบาท่านก็เขียนอะไรบางอย่างในกระดาษและขยำใส่ลงไปในเหยือกน้ำ
เมื่อผู้หญิงคนนั้นดื่มเข้าไปก็หายจากอาการ เขาบอกว่าอาการจะหายหรือไม่นั้นอยู่ที่ความเชื่อของบุคคลนั้นๆ ด้วย
เสียดายเราไม่มีเวลาไม่งั้นฉันเองก็อยากแวะไปพบบาบาเหมือนกันเพราะเขาอาศัยอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรือของเราเท่าไหร่ ไม่แน่นะฉันอาจจะหายจากอาการบ้าๆ
บอๆ ก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น